ตารางแสดงคุณสมบัติของเตาแผ่นเหล็กร้อน
รุ่น |
HLRG-400 |
HLRG-600 | HLRG-900 |
HLRG-1200 |
ขนาด (มม.) |
456x663x405 |
604x663x405 | 904x663x405 |
1204x705x360 |
จำนวนหัว |
1 |
2 | 3 |
4 |
อัตราการใช้ก๊าซ(ก๊าซธรรมชาติ) |
0.789ม3/ชม. |
1.578ม3/ชม. | 2.367ม3/ชม. |
3.156ม3/ชม. |
อัตราการใช้ก๊าซ(ก๊าซเหลว) |
0.34ม3/ชม. |
0.68ม3/ชม. | 1.02ม3/ชม. |
1.36ม3/ชม. |
กำลัง |
30,000×1 BTU |
30,000×2 BTU | 30,000×3 BTU |
30,000×4 BTU |
น้ำหนักสุทธิ (กิโลกรัม) |
44.5 |
72 | 99 |
126.5 |
น้ำหนักรวม (กิโลกรัม) |
59 |
82 | 110 |
155 |
ขนาดลัง(มม.) |
495x705x360 |
640x705x360 | 940x705x360 |
1240x705x360 |
ขนาดลังไม้(มม.) |
565x785x490 | 720x785x490 | 1010x785x490 |
1310x785x490 |
เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) คือ อุปกรณ์ทำอาหารที่เป็นแผ่นเหล็กด้านบน มีแหล่งให้ความร้อนอยู่ด้านล่างอาหาร โดยทั่วไปจะใช้เป็นแผ่นเหล็กแข็งเรียบ หรือจะใช้เป็นแบบมีร่องได้สำหรับอาหารบางประเภท เวลาทำอาหารจะทำได้ทีละด้าน โดยทาน้ำมันที่แผ่นเหล็กเรียบก่อน เพื่อกัดติด นิยมวางไว้ตรงกลางของครัวร้อน แล้วตามด้วยเตาแก๊สและเตาทอด
ประโยชน์ของเตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) เช่น
- เพิ่มกลิ่นหอมของอาหาร
- เหมาะสำหรับเนื้อหรืออกไก่
- ทำให้มั่นฝรั่งหรือเบคอนกรอบด้านนอก
ข้อเสียของเตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) คือ ประสิทธิภาพของความพลังงาน เมื่อพลิกเนื้อหรือเบเกอร์ความร้อนจะถูกถ่ายเทออกไปโดยฮู้ดดูดความร้อน ประสิทธิภาพของพลังงานความร้อนจะมีแค่ 30 – 70% การเลือกซื้อ Griddle ต้องดูเรื่องการกระจายความร้อนให้สม่ำเสมอทั่วแผ่น โดยแผ่นเหล็กเรียบจะมีแท่งให้ความร้อนกระจายทั่วผิวหลายอันและต้องตัวตัดอุณหภูมิ (Thermostat) ที่ดี ทำให้สามารถย่างอาหารหลายประเภทได้พร้อมกัน โซนให้ความร้อนจะแบ่งจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่จากบนลงล่าง แต่ละโซนจะมีขนาดกว้าง 12” – 18” Griddle ขนาดใหญ่จึงมีได้มากถึง 6 โซน เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) ที่ใช้ไฟฟ้าจะควบคุมความร้อนได้ดีกว่าแบบใช้แก๊ส ควรมีตัวตัดอุณหภูมิ (Thermostat) 1 อัน ต่อ 1 โซนความร้อน
ปกติที่นิยมใช้ทั่วไป จะเป็นเตาเหล็กแผ่นเรียบ แต่ครัวร้านอาหารบางทีก็เลือกเป็นแบบร่อง เพิ่มความน่าทานให้กับเบเกอร์และสเต็ก
แบบร่องจะเป็นทั้งเตาหรือเป็นเพียงบางส่วนของเตาก็ได้
การเลือกเตาแผ่นเหล็กร้อน
- โซนความร้อนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของเตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) ทางทฤษฎีเราควรทำอาหาร 2 อย่างที่ใช้อุณหภูมิต่างกันพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกันโดยใช้โซนความร้อนแยกกัน ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับครัวร้านอาหาร แต่ละโซนควรควบคุมอุณหภูมิได้ระหว่าง 150 -450 oF
- ด้านใต้ของเตาซึ่งมีหัวเตา จะมี 2 แบบ คือ แบบธรรมดา (เป็นเปลวไฟ) และ แบบอินฟาเรด ซึ่งมีข้อดีคือ จะไม่มีคาร์บอนเกาะอยู่ที่แผ่นเหล็กเป็นเวลานานเป็นชั่วโมง ๆ
- เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) แบบวางบนโต๊ะมีชนาด 8” จนถึงแบบวางบนพื้นขนาด 72” ความลึกจากด้านหน้าถึงด้านหลัง 20” – 32.5” สามารถเพิ่มความลึกได้อีก แต่ต้องพิจารณาถึงท่าทางการทำงานที่ต้องพิงเตาและเอื้อมมือให้เหมาะสมด้วย
- เตามีขนาดกว้าง 2 – 6 ฟุต ลึก (ด้านหน้าถึงด้านหลัง) 2 – 2.5 ฟุต ทำให้มีพื้นที่ทำงาน 400 -1663 ตารางฟุต เพื่อให้เห็นภาพ เราสามารถทำเบเกอร์ 32 อัน บนเตาที่เล็กที่สุด หรือ 120 อัน บนเตาที่ใหญ่ที่สุด แบบตั้งโต๊ะจะมีตัวตัดอุณหภูมิ (Thermostat) ควบคุมแต่ละโซนทุก ๆ 12” ของพื้นผิว ขาเตาทั้ง 4 ขา ปรับได้ เป็นพลาสติกหรือสแตนเลส มีรางไขม้นที่ด้านหน้าและด้านหลัง
- เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) แบบไฟฟ้าใช้กำลังไฟ 3 – 25 กิโลวัตต์/ชั่วมโมง ทั้งการติดตั้งแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส 208 – 480 โวลต์
- เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) แบบแก๊สใช้พลังงาน 20,000 บีทียู/ชั่วโมง/หัว เตาขนาดเล็กที่สุดจะต้องมีหัวเตาอย่างน้อย 2 หัว เตาขนาดใหญ่ใช้พลังงานถึง 90,000 – 140,000 บีทียู ยิ่งบีทียูสูงจะทำให้ทำความร้อนได้เร็ว โดยเฉพาะเมื่อใช้กับเนื้อแช่แข็ง
- เตาแผ่นเหล็กร้อน (Griddle) แบบวางตั้งพื้นควรมีความสูง 36” – 38” (เป็นความสูงที่เหมาะสมสำหรับคนทำงาน) ขาตั้งควรเป็นล้อเลื่อน เพื่อง่ายต่อการเลื่อนทำความสะอาดแลย้ายที่ตั้ง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์