แสดงทั้งหมด 9 ผลลัพท์

ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง

DODEE KITCHEN มีตู้เย็นและตู้แช่แข็งหลากหลายไซต์ให้เลือก ทั้ง 2 ประตู หรือ 4 ประตู สามารถทำความเย็นได้ตั้งแต่ -2 ถึง -18 องศาเซลเซียส ตู้เย็นเหมาะสำหรับแช่ผักสด ผลไม้สด ตู้แช่แข็งเหมาะสำหรับแช่เนื้อสัตว์ เป็นต้น

ตู้เย็นร้านอาหาร

ตู้เย็น 2 ประตู 250 วัตต์

59,000฿

ตู้เย็นร้านอาหาร

ตู้เย็น 4 ประตู

72,000฿

ตู้แช่แข็งร้านอาหาร

ตู้แช่แข็ง 2 ประตู 250 วัตต์

73,000฿

ตู้แช่แข็งร้านอาหาร

ตู้แช่แข็ง 4 ประตู

115,000฿

ตู้แช่แข็งร้านอาหาร

ตู้แช่แข็ง 6 ประตู


ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง

ตู้เย็นร้านอาหารมักจะมีความสามารถในการเก็บรักษาอาหารให้นานขึ้นและสามารถรับสินค้าในปริมาณมากกว่าตู้เย็นใช้ในบ้านได้ โดยปกติแล้ว ตู้เย็นร้านอาหารจะมีลักษณะดังนี้

  1. ขนาดใหญ่กว่า: ตู้เย็นร้านอาหารมักมีขนาดใหญ่กว่าตู้เย็นใช้ในบ้าน เพื่อรองรับปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่มากกว่า

  2. การควบคุมอุณหภูมิ: ตู้เย็นร้านอาหารมักจะมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่สามารถตั้งค่าได้เพื่อให้รักษาอาหารในสภาพที่เหมาะสม โดยสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามปริมาณอาหารที่อยู่ภายในตู้เย็น

  3. การจัดเรียงอาหาร: ตู้เย็นร้านอาหารมักจะมีการจัดเรียงอาหารให้เป็นระเบียบ โดยมักจะใช้ชั้นวางของและถังน้ำแข็งเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บรักษาอาหาร

  4. การเปิดปิดบ่อย: ตู้เย็นร้านอาหารมักมีการเปิดปิดบ่อยกว่าตู้เย็นใช้ในบ้าน ซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นลดลงได้ ดังนั้น ตู้เย็นร้านอาหารจะต้องมีระบบที่ช่วยรักษาอุณหภูมิสม่ำเสมอ

  5. ความทนทานและความทนทาน: ตู้เย็นร้านอาหารมักมีการออกแบบให้ทนทานกว่าตู้เย็นตามบ้าน

 

ครัวร้านอาหาร
DODEE KITCHEN

ตู้เย็นและตู้แช่แข็งสแตนเลส บรรจุอาหารได้จำนวนมากสำหรับร้านอาหาร ภัตตาคาร งานอุตสาหกรรม ตู้แช่สแตนเลสแบบยืนและแบบนอน

ควรวางตู้เย็นห่างจากความร้อน พนักงานในครัวไม่ต้องเดินหรือวิ่งไปหยิบของในตู้เย็นเวลายุ่ง ๆ เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าและพลังงานคน

วิธีการเลือกตู้เย็นและตู้แช่แข็ง

ตู้เย็น มีความสำคัญมากสำหรับครัวร้านอาหาร ทำให้คงคุณภาพ ผักสดมีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลา เวลาปรุงอาหารจะเพิ่มความน่าทานยิ่งขึ้น และรักษาให้วัตถุดิบปรุงอาหารมีอายุการใช้งานนานขึ้น ตู้เย็นจาก DODEEKITCHEN เป็นสินค้ามาตรฐานสากล มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากครัวร้านอาหารหลากหลายที่ ตู้เย็นเหมาะสำหรับงานเชิงพาณิชย์และใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

 

ทำไมลูกค้าร้านอาหารต้องใช้ตู้เย็นจากเรา

  • คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานในอุณหภูมิห้องและอุณหภูมิสูง รวมทั้งสามารถทำงานได้ในอากาศชื้น
  • ตู้เย็นมีประสิทธิภาพสูงออกแบบมาให้ควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้คงที่ตลอดทั้งเครื่อง
  • ตู้เย็นแบบแนวตั้งสามารถใส่ถาด GN 1/1 ได้
  • เราผลิตตู้เย็นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกในการใช้งานเชิงพาณิชย์ (ใช้ในร้านอาหาร)

ตู้แช่เย็นแบบประตูกระจกสามารถเห็นได้ง่ายว่าอาหารที่ใส่ไว้ข้างในมีอะไรบ้าง ทำให้สะดวกที่จะหยิบของ และยังทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพราะว่าเราสามารถหาสิ่งของที่เราต้องการได้รวดเร็ว

  • กระจกนิรภัย (Tempered Glass)
  • มีความโปร่งแสงสูง
  • กระจกฉนวนและมีฟังก์ชั่นป้องกันการเกิดฝ้า
  • วงกบประตูมีลวดความร้อน
  • บานพับประตูอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้ตู้เย็นแบบประตูกระจกในห้องครัวที่ติดกับสถานที่ทำงาน เพราะขณะทำงานวุ่น ๆ จะชนกระจก ทำให้แตกได้ แนะนำเป็นตู้เย็นแบบประตูสแตนเลสแทน ตู้เย็นตู้กระจกจะเหมาะสำหรับเป็นตู้เย็นที่ใส่อาหารเก็บยาว ๆ ไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน และตั้งอยู่หลังห้อง เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

ตู้แช่แข็ง สำหรับแช่เนื้อสัตว์ มีความสำคัญต่อครัวร้านอาหารมากเช่นกันไม่แพ้ตู้เย็น ความเย็นจะควบคุมแบคทีเรียไม่ให้เจริญเติบโต ทำให้อาหารไม่เสีย ตู้แช่แข็งไม่มีน้ำแข็งเกาะภายในตู้ ใช้ Compressor ที่มีความทนทาน มีหลากหลายขนาด สามารถนำไปใช้ได้กับครัวร้านอาหารขนาดเล็ก กลาง ใหญ่

คุณสมบัติหลักของตู้แช่แข็ง

  • ตู้แช่แข็งมีคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ที่มีพลังทำให้ควบคุมความเร็วในการทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตู้แช่แข็งมีฉนวนกันความร้อนอย่างดี สามารถลดการใช้พลังงานและประหยัดต้นทุน
  • ตู่แช่แข็งแบบเคาน์เตอร์จะสามารถดึงตัวเครื่องออกมาทำความสะอาดประจำวันได้
  • ตู้แช่แข็งมีลิ้นชักและประตูหลายแบบ ออกแบบมาเพื่อให้พ่อครัว (Chef) เลือกสรรตามความถนัด

ต้องดูว่าครัวร้านอาหารของเราใหญ่ขนาดเท่าไหร่ มีลูกค้าวันละประมาณกี่ท่าน แล้วต้องเก็บสต็อกของสด ผักสด และเนื้อสัตว์ ปริมาณเท่าไหร่ แล้วคำนวณว่าต้องใช้ตู้ขนาดเท่าไหร่ ถ้าพื้นที่ครัวร้านอาหารน้อย อาจจะใช้ตู้เย็นและตู้แช่แข็งเป็นตู้เดียวกัน แต่ถ้าเราเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่ต้องสต็อกวัตถุดิบเยอะ แนะนำให้แยกตู้เย็นตู้หนึ่ง และตู้แช่แข็งอีกตู้หนึ่งดีกว่า เวลาตู้เสียจะได้มีสำรองไว้ใช้งาน

 

ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทที่ทำการจัดเก็บจะใช้อุณหภูมิการเก็บที่แตกต่างกัน เช่น

1.1 อาหารแช่แข็ง               -18 องศาเซลเซียส
1.2 ไอศกรีม            -10 ถึง -12 องศาเซลเซียส
1.3 อาหารสดอื่นๆ               3-5 องศาเซลเซียส
1.4 ผักและผลไม้                3-5 องศาเซลเซียส
1.5 อาหารแห้งต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร แป้ง สปาเกตตี มะกะโรนี กระเทียม หัวหอม ฯลฯ เก็บ
ที่อุณหภูมิห้องเก็บของปกติ

ปกติตู้เย็นและตู้แช่แข็ง จะมีหลากหลายขนาดให้เลือก ทั้ง 2 ประตู, 4 ประตู และ 6 ประตู มีทั้งแบบนอนและแบบยืน ตู้แบบนอนก็สามารถประยุกต์ใช้เป็นโต๊ะทำงานได้อีกด้วย แต่ตู้ยืนก็มีข้อดีที่ประหยัดเนื้อที่ในห้องครัว

 วิธีการเลือกตู้แย็นและตู้แช่แข็งว่าจะเป็นแบบตั้งหรือแบบนอน คือ

  1. ควรพิจารณาว่าเราเปิดตู้เย็นและตู้แช่แข็งบ่อยขนาดไหน ถ้าเราเก็บของที่ใช้ทุกวัน เราก็ควรตั้งตู้เย็นและตู้แช่แข็งไว้ในส่วนของการทำงาน ที่เชฟจะเปิดหยิบของได้ง่าย แนะนำเป็นตู้เย็นและตู้แช่แข็งที่เป็นแบบแนวนอน โต๊ะด้านบนสามารถใช้ทำงานได้ด้วย
  2. แต่ถ้าเราเก็บของวัตถุดิบสำหรับสต็อกของไว้นาน ๆ ไม่ได้เปิดตู้เย็นตู้แช่แข็งเป็นสัปดาห์ เราก็ควรใช้ตู้แบบยืน แล้ววางตู้เย็นตู้แช่แข็งไว้หลังห้อง ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
  3. ไม่ควรใช้ตู้เย็นและตู้แช่แข็งที่ใช้รายวันและรายสัปดาห์เป็นเครื่องเดียวกัน เพราะการที่เราเปิดตู้เย็นและตู้แช่แข็งทุกวัน อาจจะทำให้วัตถุดิบที่เราต้องการเก็บไว้นาน ๆ อุณหภูมิไม่คงที่ ทำให้วัตถุดิบเสียง่าย และเปลืองไฟกว่า
  4. อุณหภูมิของตู้เย็นอยู่ที่ประมาณ 0-10 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิของตู้แช่แข็งอยู่ที่ประมาณ -2 ถึง -18 องศาเซลเซียส

ราคาของตู้เย็นและตู้แช่แข็ง ขึ้นอยู่กับ

  1. ขนาดและความจุ
  2. ชนิดและยี่ห้อของคอมเพรสเซอร์
  3. ช่วงอุณหภูมิทำความเย็น
  4. ตัวทำความเย็น
  5. ระบบระบายความร้อน

สรุป

ตู้เย็นและตู้แช่แข็งที่อยู่ในเครื่องเดียวกันจะมีราคาสูงกว่าตู้แยกชนิด การตัดสินใจเลือกตู้เย็นและตู้แช่แข็งแบบไหนต้องมาจากเจ้าของร้านอาหารและเชฟ (หัวหน้าพ่อครัว) ปรึกษากันว่าจะต้อง

  1. เก็บวัตถุดิบอะไรบ้าง
  2. จำนวนเท่าไหร่
  3. เปิดปิดตู้เบ่อยแค่ไหน
  4. พื้นที่ครัวขนาดเท่าไหร่